Monday 23 February 2009

Severed Head Update

KC: Located a Khao Sod report on this story. The report shows a picture of the man's head and an of the message written in correction fluid, it clearly reads: 'I came to Bangkok to be you.' Khao Sod also reports that 'Cath, I want but I cannot' was the rest of the message.-



จำนวนคนอ่านล่าสุด 14376 คน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6661 ข่าวสดรายวัน
ฆ่าตัดคอ-หนุ่มฝรั่ง แขวน"หัว" สะพานพระราม8
สยองเมืองกรุง ตร.ไขคำอังกฤษ เขียนที่ราวเหล็ก มุ่งปมขัดมาเฟีย ลุยถนนข้าวสาร




สยอง- ศีรษะชายชาวต่างชาติ มีเชือกผูกแขวนกับสะพานพระราม 8 เป็นที่สยดสยองกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตำรวจเร่งสอบว่าเป็นการฆ่าตัดหัวแขวนประจาน หรือผูกคอฆ่าตัวตายแล้วเชือกบาดคอจนร่างขาด เมื่อวันที่ 22 ก.พ.

สยอง เมืองกรุงพบศีรษะ มนุษย์ถูกเชือกผูกห้อยอยู่ใต้สะพานพระราม 8 ตร.ชันสูตร พบเป็นศีรษะชาวต่างชาติ ผิวขาว ไว้ผมทรงสกินเฮด อายุประมาณ 40 ปี โดนเชือกผูกติดกับหนังคอใต้หูด้านซ้าย มีถุงผ้าร่มสีขาว สกรีนยี่ห้อ puma สีเขียว ผูกติดไว้กับเชือก นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานสำคัญที่คนร้ายเขียนข้อความทิ้งไว้บนราวสะพาน ระบุว่า "ฉันต้องการแต่ฉันกลับไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ" และ "ฉันมากรุงเทพเพื่อพบคุณ" เป็นปริศนา ตร.เร่งหาพยาน ระบุคนร้ายต้องเป็นมืออาชีพมีความชำนาญในการใช้มีด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ. พ.ต.ท.อัชรัตน์ เหมทานนท์ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บวรมงคล รับแจ้งเหตุพบศีรษะมนุษย์ผูกห้อยติดอยู่ที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป รอง ผบก.น.7 แพทย์ร.พ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบนสะพานพระราม 8 ช่วงกลางสะพาน พบเชือกไนลอนขาว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประ มาณ 1 ซ.ม. ผูกติดกับราวสะพานด้านล่าง ทิ้งปลายอีกด้านหนึ่งลงไปใต้สะพาน ประมาณ 5 เมตร โดยมีเพียงศีรษะมนุษย์ห้อยผูกติดอยู่ที่ปลายเชือก ไม่มีลำตัว มีรอยเลือดกระเด็นติดอยู่ที่ตัวสะพานด้านใต้ อย่างน่าสยดสยอง จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายเป็นชายชาวต่างชาติ ไม่ทราบสัญชาติ ผิวขาว ไว้ผมทรงสกินเฮด อายุประมาณ 40 ปี โดยคนร้ายใช้เชือกผูกติดกับหนังคอใต้หูด้านซ้ายของผู้ตาย มีถุงผ้าร่มสีขาว สกรีนยี่ห้อ puma สีเขียว ผูกติดไว้กับเชือกเหนือศีรษะที่แขวนอยู่

ปริศนา- ข้อความปริศนา "I came to bangkok to be you." ซึ่งเขียนไว้ที่ราวสะพานพระราม 8 จุดที่พบศีรษะชายชาวต่างชาติแขวนไว้ โดยเบื้องต้นตำรวจรอผลพิสูจน์ว่าเป็นการฆ่าตัดหัวแล้วมาแขวน หรืออาจเป็นไปได้ว่าผู้ตายผูกคอโดดสะพานแล้วโดนเชือกบาดคอจนขาดเหลือแต่หัว ตามข่าว



โดยลักษณะการผูก เชือกผูกอย่างเป็นระเบียบ ต้องมีความรู้เรื่องเงื่อนการผูกอย่างดี เบื้องต้นแพทย์สันนิษ ฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ที่บริเวณลำคอมีรอยฉีกขาดคล้ายถูกของมีคมตั้งแต่ลำคอจนถึงท้ายทอย กระดูกต้นคอขาดหาย ดวงตามีเลือดคลั่ง กะโหลกศีรษะไม่ผิดรูป หนังตาและใบหน้ากดไม่ลง นอกจากนี้ ยังพบข้อความเขียนเป็นภาอังกฤษบนราวสะพาน ด้วยเมจิกสีบรอนซ์เงิน ว่า "CATH" (แคท) "I want but I can not." (ฉันต้องการแต่ฉันกลับไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ) และ "I came to bangkok to be you." (ฉันมากรุงเทพเพื่อพบคุณ) เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

พ. ต.อ.ชวลิตกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงส่วนศีรษะ ซึ่งดูจากสภาพศพไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะต้องรอผลการผ่าพิสูจน์จากแพทย์อย่างละเอียด ว่าบาดแผลบริเวณลำคอเป็นการฉีกขาดออกจากลำตัวหรือไม่ หรือถูกตัดด้วยของมีคม ถ้าหากเป็นการฆ่าตัวตายโดยการผูกคอตาย ก็จะต้องรอให้พบส่วนลำตัวด้วย หลังจากนี้จะประสานขอตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่บนสะพาน ซึ่งมีด้วยกัน 2 จุด เป็นกล้องของกรมโยธา และบก.02 เพื่อ ตรวจสอบว่าในระยะเวลา 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีเหตุ การณ์อะไรเกิดขึ้นบนสะพานบ้าง และจะเชิญพยานแวดล้อมที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาสอบปากคำด้วย เพื่อจะได้ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร จึงอยากฝากสื่อมวล ชนช่วยลงภาพใบหน้าของผู้ตาย เพราะอาจจะมีญาติ คนรู้จัก หรือเคยพบเห็น ผู้ตายมาติดต่อแจ้งความ หรือให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ และจะประสานไปยังท้องที่ใกล้เคียงที่มีชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น สน.ชนะสงคราม ว่ามีการแจ้งความบุคคลหายไว้หรือไม่ หากทราบว่าผู้ตายเป็นใครก็จะสามารถติดต่อญาติมาสอบปากคำเพื่อคลี่คลายคดีต่อ ไป

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนสะพานพระราม 8 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 ตัว ปรากฏว่าไม่มีการบันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง จึงทำให้การตรวจสอบศีรษะผู้ตายเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ข่าวแจ้ง ด้วยว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ซึ่งตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้ความสนใจ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจึงมีคำสั่งให้ตำรวจหลายหน่วย อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว กองปราบปราม สน.ชนะสงคราม ศูนย์สืบสวนบช.น. เข้ามาร่วมคลี่คลายคดีแล้ว โดยได้นำภาพใบหน้าศพชาวต่างชาติดังกล่าว พริ้นแจกจ่ายเพื่อนำไปหาเบาะแสตามแหล่งพักอาศัย และแหล่งท่องเที่ยว อาทิ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย สีลม และตามโรงแรมต่างๆ เพื่อตรวจหาว่าศีรษะดังกล่าวเป็นใคร รวมทั้งยังนำภาพดังกล่าวประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจสอบใบหน้าจากพาสปอร์ตด้วย

สำหรับสภาพศีรษะผู้ตายจากการ ตรวจดูด้วยตาเปล่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าบาดแผลดังกล่าวน่าจะถูกของมีคมบาดจนขาดออก จากกัน มากกว่าจะเป็นการจับศพรัดคอแล้วจับโยนทิ้งลงสะพานจนคอขาดออกจากกัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง

ค่ำ วันเดียวกัน พ.ต.ท.อัชรัตน์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้า ที่ได้ประชุมกันแล้ว คาดว่าผู้ตายถูกฆ่ามาจากที่อื่น แล้วตัดหัวมาผูกเพื่อประจาน โดยแพทย์ได้ยืนยันมาแล้วว่าบาดแผลที่ตัดขาด มีลักษณะเป็นผิวเรียบ และผู้ที่กระทำการแบบนี้ได้ จะต้องเป็นคนชำนาญในอุป กรณ์ของที่ใช้ตัดจะต้องคมมาก นอกจากนี้ คนร้ายจะต้องมีความชำนาญในการผูกเงื่อน ที่สามารถทำให้เชือกผูกติดกับเนื้อเยื้อที่ศีรษะได้เป็นอย่างดี เพราะการผูกเชือกกับเนื้อแล้วหย่อนลงจากสะพานอาจทำให้หลุดได้ คดีนี้น่าเสียดายตรงที่กล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพได้ เพราะมีแต่กล้องสังเกตการจราจรเท่า นั้น บางทีเบื้องหลังเรื่องนี้อาจมาจากเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์หรือไม่ก็แก๊งค้า ยาเสพติดก็เป็นได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ตำรวจได้นำถุงพลาสติกที่ติดอยู่กับเชือกใกล้ศีรษะศพไปตรวจหาที่มาที่ไป ว่าอาจเป็นถุงพลาสติกที่ใช้ในโรงแรมแห่งใดแห่งหนึ่งก็เป็นได้


http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEl6TURJMU1nPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHdNaTB5TXc9PQ==


The UK's Sun newspaper now also covering this story:

http://www.thesun.co.uk/sol/homepage/news/article2263849.ece

No comments:

Post a Comment